Tuesday, August 30, 2005

รับรถลูกรัก

เมื่อวาน ฉันไปรับลูกสนุปปี้กลับจากอู่

อู่ที่บอกฉันว่า
ซ่อมได้ ซ่อมเเล้ว
ลูกรักหายป่วยเเล้ว
เเต่สนุปปี้ก็ต้องไปมีจุบจบบนทางด่วนในวันถัดมาอยู่ดี

เมื่อวานราวสามทุ่ม ฉันจึงต้องออกไปรับลูกกลับบ้าน
ในสภาพที่ คิดว่าจะใส่ตะกร้าล้างน้ำ ขายต่อก็คงลําบาก

ระยะทางจากอู่ซ่อมรถ ถึงบ้าน ประมาณสิบนาที
เเต่โชคดี ติดไฟเเดงไปประมาณสามล้านสี่เเยก
ทําให้การเดินทางที่ควรจะเป็นเเค่ ประคับประคองรถที่ป่วยเกินเยียวยา กลับมาจอดประดับบ้าน
กลายเป็นการผจญภัยระทึกขวัญ
เป็นการนั่งเหงื่อตก อยู่บนระเบิดเวลา
จะเหยียบคันเร่งมากก็กลัวเครื่องรับไม่ไหว
จะปล่อยให้น้องสนุป คลานไปเรื่อยๆ ก็หวั่นเครื่องจะดับ

ร้านรวงสองข้างทาง ที่ยังคงส่องเเสงนีออนริบหรี่ประดับถนน
ก็มีเเต่ประเภท โรงรับจํานํา ร้านค้าเล็กๆ เเละ ผับ บาร์ มืดๆ

คนไร้บ้านนั่งจับกลุ่มคุยกันตามทางเท้าหน้าร้านขายของชํา ที่มีเหล็กดัดติดประดับประตู หน้าต่าง
ควันบุหรี่ลอยอ้อยอิ่งอยู่ใต้หลอดไฟสีขาวซีด
ไม่มีบ้าน เเต่ไม่ขาดบุหรี่

ทุกครั้งที่ต้องหยุดรถตามไฟจราจร
ความกลัวว่าจะมีใครในหมู่คนพวกนั้น เดินข้ามถนนเข้ามาทัก เริ่มมีมากกว่าความกลัวเรื่องเครื่องยนต์
ฉันเป็นคนพูดไม่เก่ง เกรงว่าหากต้องปราศัยกันเเล้ว
ฉันจะเป็นฝ่ายอ้ำอึ้ง จนต้องเสนอเงินให้เป็นการเเลกเปลี่ยนความเป็นส่วนตัว

เดาเอาว่า เจ้าของร้านชํา ก็คงกลัวไม่น้อยไปกว่าฉัน
ไม่งั้นคงไม่งัดเหล็กดัดมาติดซะอย่างกับ งานสถาปัตยกรรมสมัยนูโว


ฉันสงสัยเหลือเกิน...
เเล้วพวกเหล่า ลุง ป้า ไร้บ้าน จะกลัวอะไรบ้าง
กลัวหิว กลัวหนาว กลัวงาน

นั่งจมความคิดไปกับรถที่เดินเครื่องสั่นเหมือนจ้าวเข้าไปซักพัก

ฉันคิดคําถามไว้ถามพวกเขาได้เเล้ว

"ลุงคะ
ลุงกลัวโดนปล้นมั้ยคะ?"

Monday, August 29, 2005

คํานํา

ตามนิสัยเดิมๆ
หลังจากสมัครบล็อคเเล้ว
ก็เกิดอาการปอดเเหกไม่ยอมเขียน

เป็นบ้าอะไรไม่รู้

พอคำเขียนกลายเป็นของสาธารณะ
ฉันก็มักจะเกร็งเขียนไม่ออก
ทั้งวัน นั่งนึกหาประโยคสวยๆมาเเปะ
พยายามสร้างภาพว่า เป็นมนุษย์จําพวกที่พัฒนาทักษะการเขียนเเล้ว

จะเขียนสักพัก เอาให้อยู่ตัว
ก่อนจะเสนอหน้าไปบอกชาวบ้าน

-ฉันมีบล็อคกับเขาเเล้วนะ!